“ไม่ออกไปเห็นโลกตอนนี้
ชีวิตนี้จะได้เห็นโลกตอนไหน”
ประโยคข้างต้นเป็นประโยคที่ทำให้เราสองคนตัดสินใจเดินทางครึ่งซีกโลกอีกครั้ง หลังจากเดินทางครึ่งซีกโลกเป็นครั้งแรกด้วยรถไฟทรานส์ไซบีเรียเมื่อ 3 ปีก่อนแล้วติดใจสุดๆ
มาครั้งนี้เป็นการเดินทางครึ่งซีกโลกครั้งใหม่ บนเส้นทางสายไหม โดยเราจะบินจากกรุงเทพฯ ไปตั้งต้นเส้นทางกันที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี แล้วเดินทางผ่านประเทศต่างๆ โดยพยายามจะไม่ใช้เครื่องบิน กลับประเทศไทยกัน ระยะเวลาที่ใช้เวลานานกว่าครั้งก่อนถึง 4 เท่า ราวๆ 114 วัน ยากลำบากกว่าเดิมหลายเท่าตัวครับ
ขณะที่กำลังเขียนบทความนี้อยู่ เราทั้งคู่ก็อยู่ระหว่างการเดินทางในเดือนที่ 3 กันแล้ว ที่ประเทศคีร์กิซสถาน ประเทศหนึ่งในกลุ่มเอเชียกลาง และนี่คือ 10 สิ่งที่เรา “ได้” จากการเดินทางครึ่งซีกโลกในครั้งนี้
- “ได้” วางแผนชีวิตตัวเอง
“การเดินทางครึ่งซีกโลกนั้นต้องใช้เวลาหลายเดือน จำเป็นที่เราจะต้องวางแผนชีวิตให้มากๆ ว่าจะทำยังไงกับชีวิตดี ตั้งแต่ก่อนเดินทาง ระหว่างเดินทาง และหลังกลับมาจากการเดินทาง ซึ่งมันคนละเรื่องกับการไปเที่ยว 1-2 สัปดาห์แล้วกลับบ้านเลย”
- “ได้” เจอคนเจ๋งๆ ระหว่างทาง
“เมื่อตัดสินใจเดินทางไกลและยาวนานแน่นอนว่า ก็ต้องมีใครซักคนบนโลกใบนี้ เดินทางคล้ายๆกันกับเรา ยิ่งไปในเส้นทางที่คนไม่ไปกันมากเท่าไหร่ เราก็จะเจอนักเดินทางเจ๋งๆ มากขึ้นเท่านั้น”
- “ได้” รู้ว่าอะไรคือสิ่งจำเป็นในชีวิต
“เรามีเพียงแค่กระเป๋าหนึ่งใบ ที่จะใส่อะไรก็ได้ แต่กระเป๋าใบนี้มีขนาดที่จำกัดเหลือเกิน จึงเป็นหน้าที่ของเรา ที่จะต้องเลือกเอาแต่ของที่จำเป็นที่สุดในชีวิต ใส่เข้าไปแล้วแบกมันขึ้นหลัง พามันไปทุกที่ บนโลกใบนี้”
- “ได้” ใช้ชีวิตที่ไม่เคยได้ใช้
“ชีวิตนี้คงมีไม่บ่อยนัก ที่ต้องเปลี่ยนที่นอน เปลี่ยนที่กิน เปลี่ยนสภาพแวดล้อมแทบจะทุกๆวัน พอเราเริ่มจะคุ้นเคยกับสิ่งที่เจออยู่ ไม่ทันไรเราก็ต้องบอกลากันแล้ว มันช่างเป็นช่วงเวลาที่ยามใช้ชีวิตปกติ ไม่เคยมี”
- “ได้” ภูมิต้านทานในการใช้ชีวิต
“เวลาเราติดเชื้อ ร่างกายของเราจะสร้างภูมิต้านทาน มาต่อสู้กับเชื้อโรค ให้หายจากอาการป่วย การเดินทางก็เช่นกัน ยิ่งได้ลำบาก ยิ่งได้เจออุปสรรคและปัญหามากเท่าไหร่ ภูมิต้านทานในการใช้ชีวิตของเราก็จะมากขึ้นเท่านั้น”
- “ได้” แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
“เมื่อแผนที่วางไว้ ล่มไม่เป็นท่า เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในแบบที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน เช่น ที่พักที่เดินเข้าไปเต็ม รอบรถไฟที่เช็คมาแล้วจองไม่ได้ วีซ่าได้ไม่ทันตามที่คิดไว้ ฯลฯ เราจึงจำเป็นที่จะต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จนบ่อยครั้ง ที่แก้ไปแก้มาแล้ว แทบจะเอาเท้ามาก่ายหน้าผาก ปัญหาอะไรมันจะเยอะมากมายขนาดนี้”
- “ได้” เปลี่ยนความคิด
“ก่อนออกเดินทาง คิดมาตลอดเลยว่า ประเทศที่จะไป ผู้คนจะน่ากลัวมากๆ พอได้มาสัมผัสจริงๆ ต้องถึงกับเปลี่ยนความคิดตัวเองเลยว่า เฮ้ย ไม่ใช่แบบที่คิดไว้เลย ผู้คนเค้าเฟรนลี่มาก(ไปด้วยมั้ง) รวมไปถึงได้เข้าใจศาสนาอิสลามมากขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก ว่าทำไมคนมุสลิมต้องทำแบบนั้น ทำไมเค้าต้องทำแบบนี้ด้วย”
- “ได้” รู้ว่าถึงพูดอังกฤษได้ ก็เที่ยวไม่ได้
“ต่อให้คุณจะได้คะแนน IELTS หรือ TOEFL สกอร์สูงเทียมฟ้าแค่ไหนก็ตาม เมื่อได้มาเหยียบประเทศบนเส้นทางสายไหมแบบเราแล้วละก็…จบเห่ เพราะเค้าไม่ใช้ภาษาอังกฤษกันหรอกครับ ภาษามือบวกภาษากายล้วนๆเลยครับพี่น้อง”
- “ได้” รู้ว่าเมืองไทยน่าอยู่แค่ไหน
“จะหาของกิน ก็ง่าย จะหาสัญญาณอินเทอเน็ตดีๆ ก็มีแทบทุกที่ จะหาอากาศดีๆ ทั้งปี ไม่ร้อนมาก ไม่หนาวมาก ก็เป็นไปได้ และที่สำคัญ จะหาคนพูดภาษาไทย ใจดี ที่ไหนก็ไม่มี ยกเว้น ประเทศไทย”
- “ได้” ประสบการณ์ที่…เงินซื้อไม่ได้
“ประสบการณ์ในที่นี้ มันคือ เรื่องราวระหว่างการเดินทาง แม้จะเป็นเส้นทางเดียวกัน จุดหมายปลายทางเหมือนๆกัน แต่เรื่องราวที่พบเจอนั้น จะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ คือประสบการณ์อันมีค่า ที่ต่อให้จะมีเงินมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถซื้อมาได้”
“ชีวิตที่ไปไหนก็ได้ ทำให้คนเราได้มุมมองใหม่ๆ
ขอบคุณ Expedia ที่ทำให้เราไปไหนก็ได้”
หมอๆตะลุยโลก
สุดยอดครับ น้องๆ