Budget

รายละเอียดและค่าใช้จ่ายของการเดินทางบนเส้นทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย (Trans-Siberian railway)

ไม่มีช่วงเวลาไหนที่จะดีไปกว่านี้อีกแล้ว สำหรับการเตรียมตัวไปล่าแสงเหนือในปลายปีนี้ เมื่อสายการบิน Norwegian airline ที่เป็นพี่เบิ้มของนอร์เวย์เขาได้ออกราคาตั๋วของปลายปีนี้ออกมาแล้ว

การไปเที่ยวในต่างประเทศ เรื่อง “เงิน” ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะทุกๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าเดินทาง จำเป็นต้องใช้ “เงิน” ด้วยกันทั้งสิ้น แต่เนื่องจากโลกของเรานั้นไม่ได้มีประเทศเดียว หรือ ใช้เงินเพียงสกุลเดียว เงินตราต่างประเทศจึงเป็นเรื่องที่เราต้องคำนึงถึง บทความนี้ ผู้เขียนอยากกล่าวถึงเทคนิค การเตรียมตัวเรื่องของเงินเวลาไปเที่ยวในต่างประเทศ เพื่อให้เรื่องเงิน กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับนักเดินทางครับ ผู้เขียนขอแบ่งประเทศต่างๆ ออกเป็น 4 กลุ่มหลักๆ พอสังเขป ตามประสบการณ์ที่ผู้เขียนมีโอกาสเดินทางยังต่างประเทศ ดังนี้ ประเทศที่ใช้เงินสกุลหลักของโลก ที่ในต่างประเทศส่วนใหญ่รับแลกหรือรับชำระเงิน เช่น สหรัฐอเมริกา,ประเทศกลุ่มเชงเก้นที่ใช้เงินยูโร (เยอรมัน,ออสเตรีย,อิตาลี,ฝรั่งเศส,ฯลฯ เป็นต้น),สหราชอาณาจักร,ญี่ปุ่น...

เรื่องนี้บอกไว้ก่อนเลยว่าบางคนอาจคิดไม่ถึง แต่เป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวแบบสุดๆ มันอยู่ในกระเป๋าเงินของเราเลยละครับ ผมมีไอเดียสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังแบบใครบางคน และบางทีการลางานบ่อยๆอาจจะทำไม่ได้ ลองใช้วิธีนี้ดูนะครับ เก็บหอมรอบริบไปเรื่อยๆแล้วปีหนึ่งๆ เราเที่ยวแค่ 1-2 ครั้งก็พอแล้ว สำหรับมนุษย์เงินเดือน “50 บาท ต่อวัน” ลองคิดดูแล้วไม่น่าเรียกว่าเงินออมด้วยซ้ำ มันน่าจะเป็นเงินติดก้นกระเป๋าในแต่ละวันด้วยซ้ำไป แทนที่จะให้หมดไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง คราวนี้ลองให้เงินมาหมดกับเรื่องเป็นเรื่องดูมั่ง จะเห็นว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่ลำบากเลยครับ ได้มา 50 บาท จะไปเก็บไว้ที่ไหนก็สุดแล้วแต่ ฝากแม่ ฝากภรรยา ฝากสามี ฝากลูก ฝากแบงค์ ฝากตู้นิรภัย บลาๆๆ แล้วทีนี้มาดูพลังของการสะสมเงินครับ บางทีแค่เราเก็บไว้เรื่อยๆเราก็ได้ไปเที่ยวยุโรปแล้วโดยที่เราไม่ต้องไปเวียนหัวเรื่องหาเงินเลยด้วยซ้ำไป โซนสีแดง : พม่า กัมพูชา ลาว เวียดนาม ใช้เวลา 3-6 เดือน ก็ออกไปเริ่มต้นตะลุยโลกได้แล้ว จริงๆถ้าไปแบบ budget ก็ใช้เวลา...